หุ้นไทยอีก 1 เดือนข้างหน้า ลุ้นดัชนีแตะนิวไฮเดิม 1,718 จุด

บล.เคทีบีเอสที จับตาเฟดลดงบดุลเร็วกว่าคาด กระทบฟันด์โฟลว์ตลาดหุ้นทั่วโลก ประเมินหุ้นไทย 1 เดือนข้างหน้ามีโอกาสแตะนิวไฮเดิมที่ 1,718 จุด แต่ไม่ทะลุ เหตุมี 3 ตัวแปรเชิงลบกดดัน

วันที่ 20 มีนาคม 2565 นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคทีบีเอสที (KTBST) กล่าวว่า แม้ผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% และ เตรียมปรับขึ้นอีก 6 ครั้ง ไม่ได้เซอร์ไพรส์ตลาด แต่ก็ไม่ได้เป็นผลบวกต่อธุรกิจ เพราะการขึ้นดอกเบี้ยทำให้ต้นทุนทางเศรษฐกิจเพิ่ม และปริมาณเงินในระบบจะลดลงด้วย

โดยขณะนี้มีความกังวลอยู่ 2 เรื่องหลักคือ 1.การลดขนาดงบดุล (QT) ที่อาจจะเกิดขึ้นเร็วกว่าคาดการณ์เดิมของตลาดคือช่วงกลางปี 2565 จึงอาจส่งผลต่อเงินทุนเคลื่อนย้าย (ฟันด์โฟลว์) ในตลาดทุนทั่วโลก แม้นักลงทุนจะปรับพอร์ตกันไปแล้ว แต่การลงทุนจากนี้ยังมีความระมัดระวังอยู่มาก

2.การปรับลดคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐปีนี้ จะขยายตัวเหลือเพียง 2.8% ลดลงจากครั้งก่อนที่ 4% ถือว่าลดลงมากแต่พอเข้าใจสถานการณ์ได้ แต่จุดที่น่าสังเกตคือ GDP สหรัฐปี 2566 ไม่ได้เปลี่ยนแปลงประมาณการ คงไว้การโตอยู่ที่ 2.2% สะท้อนภาพเศรษฐกิจสหรัฐในปีหน้ายังไม่ดี

“การตัดสินใจของเฟดรอบนี้ ไม่ได้ยืนอยู่บนจุดที่เขายืนอยู่เมื่อประมาณ 3-4 เดือนที่แล้ว เพราะมีกรณีสงครามรัสเซียและยูเครน ซึ่งเป็นตัวแปรใหม่เข้ามากดดัน กว่าจะจบก็คาดว่าอาจใช้เวลาอย่างต่ำอีก 3-4 เดือน ฉะนั้นการตัดสินใจของเฟด อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ในการประชุมครั้งต่อไป” นายมงคลกล่าว

สำหรับทิศทางตลาดหุ้นไทยในระยะข้างหน้าจะมี 3 ตัวแปรหลัก คือ 1.การขึ้นดอกเบี้ยของเฟด 2.สงครามรัสเซีย-ยูเครน และ 3.หุ้นจีนที่จะถูกถอดออกตลาดหุ้นอเมริกา ซึ่งสองตัวแปรหลังเป็นปัจจัยใหม่ ฉะนั้นประเด็นของเฟดอาจไม่ได้ทำให้ตลาดหุ้นไทย ปรับขึ้นหรือลง แต่ปัจจัยกดดันสำคัญคือกรณีสงครามรัสเซีย-ยูเครน กับหุ้นจีนที่จะถูกถอดออกตลาดหุ้นอเมริกามากกว่า

“ประเมินว่าดัชนี SET Index ในระยะ 1 เดือนข้างหน้านี้ จะวิ่งไปแตะระดับนิวไฮที่เคยทำไว้ประมาณเดือน ก.พ.2565 ที่บริเวณ 1,718 จุดได้ แต่คงไม่ทะลุ เพราะมีตัวแปรเชิงลบกดดันอยู่ ขณะที่ตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ไม่ใช่รอบการเล่น เพราะผ่านฤดูกาลจ่ายเงินปันผลไปแล้ว ดังนั้นจังหวะที่ดัชนีจะปรับขึ้นแรงน่าจะเป็นช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย.2565 อาจเห็นทะลุไปถึง 1,750 จุด ส่วนหนึ่งจากสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครนน่าจะจบไปแล้วด้วย” นายมงคลกล่าว

อ้างอิง
https://www.prachachat.net/finance